.

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐออกโรงเตือนเมื่อวันจันทร์ (7 พ.ย.) ว่า หากพรรคริพับลิกันคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งกลางเทอมที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ (8 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น จะทำให้สถาบันประชาธิปไตยของสหรัฐอ่อนแอลง

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นของปธน.ไบเดนสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกที่หยั่งรากลึกในแวดวงการเมืองสหรัฐ ก่อนถึงการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งอาจเปิดทางให้พรรคริพับลิกันก้าวเข้ามาครองเสียงข้างมากในหนึ่งสภา หรือทั้งสองสภา

 

“ขณะนี้เราได้มาถึงจุดเปลี่ยนแล้ว เราต่างก็ตระหนักว่าประชาธิปไตยของเราตกอยู่ในความเสี่ยง และเรารู้ดีว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เราต้องปกป้องสิ่งสิ่งนี้เอาไว้” ปธน.ไบเดนกล่าวที่การหาเสียงในมหาวิทยาลัยโบวี สเตต ใกล้กับกรุงวอชิงตัน

 

นักวิเคราะห์การเลือกตั้งที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดคาดการณ์ว่า พรรคริพับลิกันมีแนวโน้มกวาดเก้าอี้ประมาณ 25 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีทั้งหมด 435 ที่นั่ง ซึ่งเพียงพออย่างเหลือเฟือที่จะทำให้พรรคริพับลิกันพลิกมาเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมาก แทนที่พรรคเดโมแครต นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุด้วยว่า พรรคริพับลิกันมีลุ้นชิงเก้าอี้ 1 ที่นั่งที่ทางพรรคต้องการ เพื่อครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา

 

แม้ให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานสะอาด แต่ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่พึงพอใจการทำงานของปธน.ไบเดน โดยผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ระบุว่า มีชาวอเมริกันเพียง 39% ที่พึงพอใจการทำงานของปธน.ไบเดน

 

การชิงชัยทางการเมืองดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยพรรคริพับลิกันได้กล่าวโทษว่าคณะบริหารของปธน.ไบเดนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อและอาชญากรรมพุ่งสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวอเมริกันวิตกกังวลมากที่สุด 2 อันดับแรก ขณะเดียวกันผู้สมัครหลายสิบชีวิตก็ได้ตอกย้ำข้อกล่าวอ้างเรื่องการฉ้อโกงที่ไร้หลักฐานของนายทรัมป์ในการพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งปี 2563 โดยบางส่วนอาจลงเอยด้วยการเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ หรือคณะบริหารเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ และมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งปี 2567

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์